ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรีจะจัดให้มีนิทรรศการศิลปะ "นักเรียน" โดย อัมรินทร์ บุพศิริตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน - 26 กรกฎาคม 2552ณ ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรี (อังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.30 - 19.00 น.) นิทรรศการแสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรกของจิตรกรหนุ่มหน้าใหม่จากรั้วหน้าพระลาน นำเสนอผลงานจิตรกรรมเชิงล้อเลียนเสียดกระทบ พฤติกรรมการเลียนแบบของเด็กนักเรียนวัยรุ่นในสังคมไทยปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากความมากเกินพอดีของการบริโภคข่าวสารผ่านสื่อบันเทิงต่างๆ จนกลายเป็นความมากเกินพอดีของการแสดงออก

ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรีจึงขอความกรุณาสื่อมวลชนทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์นิทรรศการดังกล่าวสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร: 02-422-2092, 084-772-2887 แฟกซ์: 02-422-2091อังคาร-เสาร์ 10.30 - 19.00 น. อาทิตย์ 10.30 - 17.30 น. (ปิดวันจันทร์) ด้วยความเคารพอรวรรณ กรวิทยโยธิน

Door of a Beating Heart
โดย ธเนศ อ่าวสินธุ์ศิริ
ณ หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท
23 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน 2552

“ประตูแห่งหัวใจที่กำลังเต้น” เป็นนิทรรศการงานจิตรกรรมที่คัดเลือกจากผลงานซึ่งผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 2007 – 2009 ของ ธเนศ อ่าวสินธุ์ศิริ โดยมีแนวคิดความคิดหลักที่พัวพันอยู่กับการแสวงหาคุณค่าอุดมคติเกี่ยวกับความรัก การโหยหาความรัก และคติต่างๆ ของความเป็นเพศหญิง ผลงานทั้งหมดแสดงออกผ่านการใช้ภาพเปลือยของร่างกายและรูปทรงอันสมบูรณ์อิ่มเอิบของผู้หญิง ที่อาจมองได้ว่าเป็นทั้งร่างกายมนุษย์ เป็นประติมากรรม และเป็นการแสดงความคิดผ่านร่างกายของมนุษย์แบบบุคลาธิษฐาน (personification)[1] ที่มีรูปทรงก้ำกึ่งรูปโบราณกรีกและรูปปั้นพื้นเมือง

ผลงานในช่วงเริ่มต้นปี 2007 ของธเนศ อ่าวสินธุ์ศิริ เป็นงานจิตรกรรมที่มีต้นแบบจากผลงานชื่อ “The River” ของ Aristides Maillol ประติมากรชาวฝรั่งเศส เพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความก้ำกึ่งระหว่างความเป็นมนุษย์และประติมากรรม และสร้างพื้นที่นามธรรมภายในให้ปรากฏ ดังเช่นผลงาน “Touching the Clouds - after Maillol, 2007” และผลงาน “The Day He Himself Shall Wipe My Tears Away - after Maillol, 2008”

สำหรับผลงานจิตรกรรมในช่วงระยะเวลาต่อมา ธเนศ อ่าวสินธุ์ศิริ สร้างความเชื่อมต่อท่าทางรูปทรงโดยใช้ต้นแบบจากภาพผู้หญิงที่ปรากฏในเวบไซด์ต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต ภาพต้นแบบ นางแบบยุคปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนรูปร่างนางแบบให้เกิดความอวบอิ่ม เพื่อแสดงความเป็นสตรีเพศและสภาวะพร้อมที่เป็นแม่ให้เด่นชัด อันเป็นความงามในอุดมคติของศิลปิน พร้อมๆ กับปรับ ท่าทาง อากัปกริยา ให้มีความนุ่มนวล พลิ้วไหว ดังในผลงาน “Moon (เดือน), 2008”

สำหรับผลงานในช่วงรอยต่อปี ค.ศ. 2008-2009 เริ่มแสดงออกชัดเจนมากขึ้นถึงความเป็นบุคลาธิษฐาน ในทุกองค์ประกอบ รวมไปถึงวิธีการตั้งชื่อผลงาน ดังในผลงานที่มีชื่อว่า “Some Women Have Qualities Of An Angle, 2009” ซึ่งสื่อความหมายถึงผู้หญิงหลายๆ คนนั้นมีคุณสมบัติของนางฟ้าอยู่ หรืออาจเป็นนางฟ้าในฝันของศิลปิน

แม้ว่าผลงานของธเนศ อ่าวสินธุ์ศิริในชุดนี้จะมีแนวคิดหลักที่เกิดขึ้นจากรสนิยม ประสบการณ์ ความเรียกร้องภายในส่วนตัวของศิลปิน แต่กระนั้นศิลปิน ก็ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมตีความได้ตามความรับรู้ของแต่ละบุคคล ดังที่ศิลปินกล่าวไว้ว่า “ศิลปะเป็นตัวตั้ง แต่ไม่ใช่ผู้เฉลย หากมีอะไรอยู่บ้างที่เป็นความรวมให้ได้รับรู้ร่วมกัน”

นิทรรศการจิตรกรรม “ประตูแห่งหัวใจที่กำลังเต้น” นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม– 20 มิถุนายน 2552 โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552 เวลา 18.00 น. ณ อาคาร 7 วิทยาลัยนานาชาติและหอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
ชัชฎาวรรณ ฟอยส์เลอร์
หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ : 119 ถนนพระราม 4 กล้วยน้ำไท คลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0 ... โทรสาร: 0 ...อีเมล์: buggallery@bu.ac.th, bugallery@gmail.com

diary 1+1

diary 1+1by Ploy Mallikamas & Chawnchom Boonmekurtsup15 May - 12 June 2009Opening reception: Friday, May 15th, 2009, 7-9pm

อาร์ตกอริลล่าส์ อาร์ตแกลเลอรี่
260 ชั้น 2 อาคารโรงหนังลิโด้ สยามแสควร์ ระหว่างซ.2 และ 3 ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร/แฟกซ์: 0-2658-3975

The Hacienda Must be Built

The Hacienda Must be Built
งานแอนิเมเชั่นและภาพเคลื่อนไหวโดยศิลปินชาวออสเตรเลียน อาร์โล เมานท์ฟอร์ด
จัดแสดง 21 เมษายน – 30 พฤษภาคม 2552
ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ ชั้น 7 สถาบันวิทยบริการ (หอสมุดกลาง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิธีเปิดนิทรรศการ 21 เมษายน 2552 เวลา 18.30 น.
การบรรยายโดยศิลปิน 21 เมษายน 2552 เวลา 16.00 น.

สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และอาร์ต วิคเทอเรีย (Arts Victoria) ขอเชิญผู้สนใจศิลปะชมนิทรรศการ The Hacienda Must be Built ผลงานแอนิเมชั่นและภาพเคลื่อนไหวโดยศิลปินออสเตรเลีย อาร์โล เมาท์ฟอร์ด (Arlo Mountford) ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 21 เมษายน ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 นี้

อาร์โล เมาท์ฟอร์ด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิจิตรศิลป์ จาก Victoria College of the Arts หลังจากนั้นเขาได้แสดงนิทรรศการเดี่ยวและแสดงร่วมกับศิลปินท่านอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เขาได้รับรางวัลศิลปินดาวรุ่ง ABN AMRO Emerging Artist Award อันทรงเกียรติในปีพ.ศ. 2550 และเสร็จสิ้นการเป็นศิลปินในพำนักที่สถาบันแฟรงค์ มอทร์ (Frank Mohr) ในประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อเร็วๆ นี้

นิทรรศการที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ จะเป็นการแสดงผลงานเดี่ยวครั้งที่เก้า และเป็นการแสดงผลงานในต่างประเทศเป็นครั้งแรกของอาร์โล ซึ่งจะประกอบด้วยผลงานแอนิเมชั่นชุดสำคัญสองชุด ชื่อ Return to Point (2006) และ STAND UP… (2007) นอกจากนี้เขาจะนำเสนอผลงานใหม่ล่าสุด Return to Form: NDINAVIA ซึ่งเป็นหนังสั้นที่ถ่ายทำขึ้นที่เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี และเทือกเขาวิคตอเรีย แอลป์ ในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย

ความสนใจใคร่รู้ในเรื่องศิลปะและการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแห่งทศวรรษที่ 20 เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานในนิทรรศการนี้ ศิลปินได้นำภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ผู้คนคุ้นเคยมานำเสนอเป็นเรื่องราวในรูปแบบใหม่ที่หยอกล้อ สำรวจ และตั้งคำถามถึงความสำคัญของสัญลักษณ์เหล่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของศิลปะร่วมสมัย ซึ่งผู้ชมจะได้รับทั้งความรู้และความบันเทิงจากภาพเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตาตื่นใจในนิทรรศการนี้

อาร์โล เมาท์ฟอร์ด จะเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อเปิดนิทรรศการในวันที่ 21 เมษายน โดยในวันนั้นจะมีบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการทำงานของศิลปิน เวลา 16.00 น. และมีพิธีเปิด เวลา 18.30 น. ผู้สนใจเข้าฟังการบรรยาย กรุณาสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-218 2965

Take-Turn

100 Tonson Gallery presents “Take-Turn”, solo exhibition by an outstanding young Thai artist, Prateep Suthathongthai

Prateep Suthathongthai uniquely plays out his creativity through the process of shooting, sequencing and displaying negative and positive film with the maintenance of the original record of the films. Photography records actual existence and the artist displays these existences through the negative as well as positive without changing the sequence of his shooting and without touch up. The meticulous process requires some twenty rolls of film to result in each piece of work.

Often times, we see photography presenting realistic image; Prateep has his own spectacular way to collect realistic/actual existence and re-tell it through his work of art. He concentrates on the complexity of what he records with the sense of discovery and exploration to retell in more meaningfully way.

“I take photo and turn around, walk up and down, and go to the same place time after time to look for undiscovered angles”, says Prateep. The artist works on this new series as a continuation from his previous negative film works which focused more on temples and Thai architecture. The new series include modern day construction, amphitheatre in larger scale with a display of large format slides on light box.
High-resolution images:
Image 1 : https://www.yousendit.com/download/UmNMK0dsUnJPSHhjR0E9PQ
Image 2 : https://www.yousendit.com/download/UmNMK0dtcWZvQUkwTVE9PQ
Pls kindly put courtesy of artist and 100 Tonson Gallery.

The opening reception will be on Thursday May 14, 2009 at 7 pm.

The exhibition will be on view from May 14 to June 28, 2009

Happiness

100 Tonson Gallery is pleased to invite you to the opening reception of “ Happiness” the latest solo exhibition by young Thai artist Pichaya Khunnawat on Thursday April 2, 2009 at 7 pm.

Pichaya has received very well responses from Thai and international audiences from his previous solo show Raw/Rare in 2007. He keeps continuing to reflect his perspective towards social environment through his paintings and drawings, acrylic on paper. His latest works have become more concrete and compassionate. As he has changed his life style and attitude for all kind of things around him in the past few years, Pichaya wants to express “Happiness” in the way that is factual and frank. “Human interaction” is the symbol he uses in his latest works to present the feeling and happy awareness in the different ways.

Furthermore, Pichaya has now joined his mural , conveys his attitude of ‘Happiness’, in Art of Campaign: Campaign for Art at Bangkok Art and Culture Center, Bangkok.


“If we keep asking ‘what the happiness is’, we can get a lot of answers. But if we ask again ‘what the real happiness is’, we might need to think about it for a while. Whatever the result of this question will be, it ‘s not more important than we take a moment to think with our mind, conscience and intellect…..” Artist


The exhibition will be on view from April 2 to May 10, 2009

Art Thesis Exhibition

นิทรรศการศิลปะนิพนธ์ 2551นี้ เป็นการรวบรวมผลงานของนักศึกษาปีสุท้ายในระดับปริญญาตรี คณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร ตั้งแต่ขั้นแรกของการทำงานศิลปะ ถึงขั้นสุดท้ายจนเสร็จสมบูรณ์ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของการศึกษา และจัดให้มีกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “จิตรกรรมฯ – วานนี้ถึงวันนี้” ในวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2551 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นการพูดคุยและย้อนเล่าถึงเรื่องราวจากภาพยนตร์ “กลิ่นสีและกาวแป้ง” ที่สะท้อนชีวิตของนักศึกษาศิลปะในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมีศิษย์เก่าหลายท่าน ได้แก่ รองศาสตราจารย์พิษณุ ศุภนิมิต นักเขียน นักวิจารณ์ศิลปะ วาณิช จรุงกิจอนันต์ นักเขียน และ ติ๊ก กลิ่นสี พิธีกรและนักแสดง มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ ประสบการณ์ กับศิษย์รุ่นปัจจุบันที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาในปีนี้ ตลอดจนแนะแนวทางแก่ผู้ที่สนใจเข้าศึกษาต่อด้านศิลปะ

The graduate class of Painting, Sculpture, Graphic Art and Thai Art from Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Art, Silpakorn University is holding an Graduate Art Thesis Exhibition for the class of 2008, to publicise the artistic creations by art students with no less than 5 years of education and experiences, thus growing more opportunities for the students to become the upcoming generation of qualified artists.

Art Thesis Exhibition will collect over 160 art pieces from 83 students, which include paintings, sculptures, print makings, mixed medias and installations, with various concepts and processes of thinking. The exhibition will be on display daily, except Wednesdays, from March 10th to 29th, 2009 at The Queen’s Gallery, 101 Rajdamnern Klang Avenue, Bangkok. Opening hours : 10 a.m. to 7 p.m.

Artist’s talk
Klinsee – Remember Past to Present
by Assoc. Prof. Pishnu Supanimit, Wanich Jarungkidanan and Tik Klinsee
On Saturday March 21, 2009 start from 01.00 P.M.

"In This Circumstance, the Only Object of Concern is the Betrayal of the Moon" by Araya Rasdjarmrearnsook‏

หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล จะจัดให้มีนิทรรศการศิลปะ

"ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งเดียวที่ควรใส่ใจคือการทรยศของดวงจันทร์"

โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุขตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม – 10 เมษายน 2552 (ร่วมพิธีเปิดและเสวนากับศิลปินในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2552 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป)ณ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล

"ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งพึงควรใส่ใจคือการทรยศของดวงจันทร์" คือวรรคทองจากงานวรรณกรรมสมัยเก่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มร่างของแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดภาษาอักษรสู่ภาษาภาพ ผ่านกระบวนการนำเสนอด้วยภาพถ่ายและศิลปะวีดีโอ ผสมผสานกับผลงานอีกรูปลักษณ์หนึ่งที่ชูประเด็นเกี่ยวกับการทวนความหมายในประโยค "การพัฒนาศิลปะเอเชียจำเป็นต้องได้รับคำวิจารณ์ที่แหลมคมจากตะวันตก"โดยการนัดพบระหว่างชาวนาชาวไร่กับศิลปะชิ้นเอกในยุคโมเดิร์นอาร์ต

หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดลจึงขอความกรุณาสื่อมวลชนทุกท่านช่วยประชาสัมพันธ์นิทรรศการดังกล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร: 02-422-2092, 084-772-2887 แฟกซ์: 02-422-2091อังคาร-เสาร์ 10.30 - 19.00 น. อาทิตย์ 10.30 - 17.30 น. (ปิดวันจันทร์)

Brandnew 2009

นิทรรศการศิลปะ แบรนด์ นิว 2552
เวทีสำหรับศิลปินและนักวิจารณ์ศิลปะรุ่นใหม่

หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
13 มีนาคม -14 เมษายน 2552
แถลงข่าวและเสวนาร่วมกับศิลปิน: 13 มีนาคม 2552 เวลา 16.00-18.00น.
พิธีเปิดนิทรรศการ: 13 มีนาคม 2552 เวลา 18.00น.
ศิลปิน บุษราพร ทองชัย ดวงกมล แสวงสิน และ พร้อมบุญ ชุณห์ช่วงโชติ
นักวิจารณ์ สุริยะ ฉายะเจริญ ณรงค์ศักดิ์ นิลเขต ธนวัฒน์ กันภัย และ ภาริณี อินทร์สูงเนิน

หอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
21 มีนาคม -30 เมษายน 2552
แถลงข่าวและเสวนาร่วมกับศิลปิน 21 มีนาคม 2552 เวลา 16.00-18.00น.
พิธีเปิดนิทรรศการ 21 มีนาคม 2552 เวลา 18.00น.
ศิลปิน โอฬาร เนตรรังษี และ ปฎิบัติการ ศิลปะ 24 ชั่วโมง (กฤษฎา ดุษฎีวนิช และ เพื่อน)
นักวิจารณ์ ปวีณา เอื้อน้อมจิตต์กุล และ ลลินธร เพ็ญเจริญ

ภัณฑารักษ์ กฤติยา กาวีวงศ์
ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ แมรี่ ปานสง่า

What a Place Tells Us

100 Tonson Gallery and the Japan Foundation are pleased to invite you to the opening party of “What a Place Tells Us” photography and site-specific exhibition by Tomoko Yoneda and Yoshihiro Suda, curated by Yuka Uematsu, Curator, the National Museum of Art, Osaka, Japan, on Tuesday March 3rd, 2009.

In this special occasion, we have a talk by the curator and artist to fully introduce the concept of the exhibition “What a Place Tell Us” on Tuesday March 3, 2009 at 5.30 p.m followed by the opening reception at 7 p.m.


Participated in Bangladesh Biennale 2008, “What a Place Tells Us” travels to Bangkok with the outstanding photography works by Tomoko Yoneda, talking about history and climate conditions of Bangladesh, while Yoshihiro Suda makes small sculptures out of wood to create site- installation.

How many things do we overlook in everyday life? There are many things that we look at without really noticing, and we are often too busy to even look at the things around us. In this exhibition, both artists will show works in which the place speaks to us. Yoneda’s photographs and Suda’s sculptural installations differ in materials and technique, but the art of both artists invites viewers to pay attention to the existence of objects and places that are seen without clear awareness.

Exhibition period: 3-29 March, 2009

For more information, please feel free to contact us at http://us.mc545.mail.yahoo.com/mc/compose?to=info@100tonsongallery.com or +66 2684 1527.

Miles away from home to find the MISSING piece

100 ต้นสนแกลเลอรี่ ต้อนรับปี 2552 ในเดือนมกราคม และ เดือนกุมภาพันธ์ กับ 3 นิทรรศการ ที่รวบรวมเอางานส่วนหนึ่งของ 100 Tonson Gallery’ s collection  มานำเสนอในวาระพิเศษ 

ปิดท้ายด้วยนิทรรศการกลุ่ม ในชื่อ “"Miles away from home to find the MISSING piece" ( 12 ก.พ. – 1 มี.ค 52) เสนองานจาก 3 ศิลปิน ได้แก่  ภาพวาด Abstract โดย สมยศ หาญอนันทสุข ศิลปินไทยที่พำนักอยู่ใน เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี กว่า 39 ปี เป็นศิลปิน Abstract ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างยิ่ง ทั้งในประเทศไทยและยุโรป .  Lithograph Print  หน้าคน ที่สะท้อนเรื่องราวและความรู้สึกที่เป็นสากลผ่านสีหน้าและแววตา โดย Takanobu Kobayashi ศิลปินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 9 ปี , และ   Yayoi Kusama  ศิลปินหญิงญี่ปุ่นร่วมสมัยที่สร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญทางศิลปะให้กับประวัติศาสตร์ศิลป์ของโลก

กับผลงานภาพพิมพ์ Silkscreen ที่มีการเพิ่มเทคนิคการลง Glitter ลงบนภาพพิมพ์ในลักษณะเฉพาะ

เวลาทำการ: พฤหัสบดี -อาทิตย์ 11.00 น. – 19.00น.

Into An Empty Sky

นิทรรศการศิลปะร่วมสมัย โดย ซาเวรี่ โวลสกี้  

ภัณฑารักษ์ กฤติยา กาวีวงศ์

ผู้ช่วยภัณฑารักษ์ เพ็ญวดี นพเกตุ มานนท์ และ ยุวดี ศรีห้วยยอด

24 มกราคม 2552 – 5 เมษายน 2552

ณ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน

 

ซาเวรี่ โวลสกี้ เป็นศิลปินชาวโปแลนด์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เม็กซิโก ซิตี้ และ มลรัฐนิวยอร์ก งานของเขาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและคำนึงถึงการไร้ซึ่งเวลาและความไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนในแง่ของบริบททางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สัญลักษณ์ และ ปรัชญานั้น 
โวลสกี้ได้สร้างชั้นของความหมายต่างๆขึ้นมา บนพื้นฐานของอดีตและปัจจุบัน โดยนำเสนอในลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาเพื่อ สร้างเนื้อแท้ขององค์ประกอบให้กับพื้นที่ทางศิลปะด้วย พื้นฐานวัฒนธรรมของยูโด – คริสเตียน  และได้รับอิทธิพลจากงานศิลปะยุคก่อนอารยธรรมโคลัมเบีย และมีความชัดเจนทางภาษาร่วมสมัย โวลสกี้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อเพิ่มพูนความหมายให้กับงานประติมากรรมของตน

 

ผลงานของโวลสกี้เป็นที่รู้จักในแง่ของการคารวะต่อเหล่าพ่อมด และศิลปินนิรนาม ด้วยความระลึกในพรสวรรค์อันเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจของพวกเขาเหล่านั้น นิทรรศการนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างแนวคิดและแนวปฏิบัติของงานศิลปะร่วมสมัย รวมถึงวัฒนธรรม ประเพณีจากอดีต เพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้เกิดความต่อเนื่องในแง่ของเนื้อหา และให้มีการค้นพบรูปแบบทางศิลปะใหม่ๆ ต่อไป

On the Path of Searching

ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรีจะจัดให้มีนิทรรศการศิลปะ
 
"On the Path of Searching" 
โดย สุดศิริ ปุยอ๊อก
ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์  - 24 มีนาคม 2552
ณ ดีโอบีหัวลำโพง แกลเลอรี

(เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.30 - 19.00 น.)

DOB Building 4F, 318 ถนนพระราม 4

"On the Path of Searching" นิทรรศการศิลปะ โดย สุดศิริ ปุยอ๊อก ที่จะโน้มนำให้เรารู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่กับการค้นหาบางสิ่งที่เราเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตสมบูรณ์ มีความสุข และเป็นอิสระจากปรารถนา ไม่ว่าจุดหมายนั้นคืออะไร มีอยู่จริงหรือไม่ เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ อีกไกลแค่ไหน เราจะค้นพบและไปถึงมันได้หรือไม่ ่ เราก็ยังคงค้นหาต่อไปด้วยความไม่รู้มากมาย
 
ระหว่างเส้นทางแห่งการค้นหาอันไร้จุดจบนั้น เราได้เห็น ได้เป็นประจักษ์พยาน รู้สึกประหลาดใจ ตื้นตัน หดหู่ ชุ่มชื่นใจ กับสิ่งต่าง ๆ มากมาย บางทีเมื่อเราไปถึงที่หมายนั้นได้ในท้ายที่สุด จุดหมายนั้นอาจมีค่าน้อยกว่าหนทางที่นำมาสู่มันก็เป็นได้

Desaturated

Love Story

Love Story by Tum Wisut Ponnimit 

A story of many kinds of love expressed in cartoons published in Thailand and Japan since 1999, featuring love of male - female, female - female, brother - brother, human - dog, human - comet, live person - dead person, oneself in this life - oneself in past-life, animal – animal. Just like Tum says, “There are many kinds of love, and we can be happy with love once we understand what it is.”

J Gallery at J Avenue (Thonglor 15)
232/2 Sukhumwit 55 Rd.
Klongton Bangkok 10110